วิเคราะห์เด็กเป็นรายบุคคล => สังเกตจาก
=> การอ่านคำและการอ่านประโยค
=> การสะกดคำ การออกเสียงพยัญชนะัและสระ
ปัญหาที่พบ
๑. จำพยัญชนะได้ไม่ครบทุกตัว หรือจำได้แต่ออกเสียงผิดไปทำให้มีปัญหาในการสะกดคำ และการผันวรรณยุกต์
พยัญชนะที่นักเรียนมักอ่านไม่ถูก
เช่น
ขอ
ออกเสียงเป็น
คอ
ถอ ออกเสียงเป็น
ทอ
สอ ออกเสียงเป็น
ซอ
ฉอ ออกเสียงเป็น
ชอ
หอ
ออกเสียงเป็น
ฮอ เป็นต้น
การแก้ไข
ครูควรฝึกทักษะการอ่านพยัญชนะให้ถูกต้อง จึงจะสามารถนำมาสะกดเป็นคำได้ถูกต้อง
๒. จำสระและการเปลี่ยนรูปสระไม่ได้ โดยเฉพาะสระที่เป็นสระประสม
เช่น สระ เอาะ
สระ เอีย
สระ เอือ
สระ เออะ
และการเปลี่ยนรูปของสระที่มีตัวสะกด ดังนั้น
ในแบบฝึกที่ได้จัดทำขึ้นจึงเน้นการฝึกเขียน ฝึกอ่านสระทุกตัว ฝึกประสมคำ แจกลูก
และสะกดคำจนคล่อง แล้วทบทวนสระจากเพลง
และรูปภาพเพื่อสื่อความหมาย
ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
๓. ออกเสียงคำที่สะกดผิด
เป็นเพราะนักเรียนยังขาดทักษะการสะกดคำ
ยังจำตัวสะกด และการออกเสียงไม่ได้
การแก้ไข
ครูควรออกเสียงคำที่สะกดในมาตราต่าง ๆ ให้นักเรียนฟัง และให้นักเรียนมองปากครูขณะที่ออกเสียง พร้อมทำตาม นักเรียนฝึกออกเสียงตัวสะกดทีละตัว โดยให้นักเรียนรู้จักสังเกต และแยกความแตกต่างของตัวสะกดแต่ละตัวว่าต่างกันอย่างไร
ดังนั้น ในแบบฝึกชุดที่ ๑ ถึงชุดที่ ๙ จึงเน้นการออกเสียงตัวสะกดโดยครูช่วยออกเสียงนำในแต่ละชุดจะทำให้นักเรียนจำได้ดี สามารถแยก
และออกเสียงเองได้ถูกต้อง
๔. การผันวรรณยุกต์ไม่ถูกต้อง เป็นเพราะนักเรียนยังไม่เข้าใจเรื่องอักษร สามหมู่ รูป และเสียงของวรรณยุกต์
การแก้ไข ครูควรผันวรรณยุกต์นำ แล้วให้นักเรียนออกเสียงตาม เมื่อพบคำที่มีวรรณยุกต์
ควรฝึกให้นักเรียนสังเกตรูป และเสียงวรรณยุกต์
และรูปแบบการฝึกผันวรรณยุกต์จะทำให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้น
๕. ไม่เข้าใจความหมายของคำและประโยค
อ่านคำยากไม่ได้
เช่น
คำที่ออกเสียงเหมือนกัน แต่เขียนต่างกัน ความหมายต่างกัน
จะทำให้นักเรียนนำคำมาใช้ในการแต่งประโยคไม่ถูกต้อง
เขียนคำผิดไปจากความหมายเดิม
การแก้ไข ครูควรอธิบายความหมายของคำทุกคำที่อ่าน
อธิบายถึงความแตกต่างของคำ และการนำไปใช้ ฝึกแต่งประโยคจากคำ
จากรูปภาพจนคล่อง เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ในการอ่านเรื่องสั้น นิทาน การเขียนประโยค และเรื่องราวต่าง ๆ
ตามจินตนาการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น